บทความที่ได้รับความนิยม (Top 10)

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เสพติดความสิ้นหวัง..หลังเผชิญกับความเจ็บปวดซ้ำๆ

เพลง..เสพติดความเจ็บปวด (The Yers)
               
                   วันนี้เพิ่งเข้าใจความรู้สึก "สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ไร้พลังจะทำสิ่งใด" ก็ต่อเมื่อเจอความผิดหวังซ้ำแล้ว ความล้มเหลวซ้ำเล่า คำพูดจากคนรอบข้างที่เอาแต่ทิ่มแทงหัวใจ จนต้องนั่งจับเจ่าให้ความโดดเดี่ยวค่อยๆกัดกินหัวใจ ความรู้สึกอ้างว้างไม่เหลือใครได้ถาโถม ความพ่ายแพ้ต่อชะตากรรมชีวิตได้คอยตอกย้ำ ทำให้จิตใจเข้าใกล้คำว่า "ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป" แต่ก็ไม่ถึงกับอยากตายหายไปจากโลกใบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่อัดแน่นภายในจิตใจ ที่บ่มเพาะเมล็ดแห่งความเจ็บปวดไว้ในจิตใต้สำนึกมาเนิ่นนาน เก็บและฝังมันไว้ รดน้ำมันด้วยการเผชิญสถานการณ์และคำพูดที่ทิ่มแทงจากคนรอบข้าง มันกระทบกระเทือนจิตใจจนเหนือการควบคุม เป็นความรู้สึกที่ยากจะหาคำไหนมาอธิบาย ยากที่จะสาธยายให้ใครได้เข้าใจ ใช่..ไม่มีใครเข้าใจ เพราะไม่มีใครคิดจะนึกถึงความรู้สึกของคนๆนี้ คนที่ไร้ค่าในสายตาทุกคน คนที่มีบาดแผลเหวอะในใจ ไร้หนทางเยียวยาและรักษาให้หายไป...


               เด็กวัยรุ่นคนนึง..ต้องมาคอยเห็นภาพเหตุการณ์บางอย่างที่โหดร้ายทารุณจิตใจ ต้องมาคอยแบกรับบางอย่างไว้ โดยที่มันเกินกำลังของตน เด็กวัยรุ่นคนนึง..ที่ชีวิตช่วงนั้นของเขาได้ขาดหายไป ต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ใครๆ ต้องดูแลคนในบ้าน ต้องใช้ชีวิตและมีความคิดที่โตเกินวัย ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว จากการที่พูดอะไรไปแล้วไม่มีใครรับฟัง ไม่มีใครนึกถึงความรู้สึกของเด็กคนนี้ ทำให้เด็กคนนี้ต้องทนอยู่กับความเหงาและความโดดเดี่ยวมานานหลายปี กับปัญหาบางอย่างที่มันหนักหนาสำหรับวัยนั้น ถ้าเด็กคนนี้ไม่มีความอดทน คงไม่ผ่านพ้นจนเรียนจบมาถึงทุกวันนี้ คงกลายเป็นเด็กใจแตกคนนึง ไม่ก็ฆ่าตัวตายเพื่อไม่ต้องเป็นภาระใคร จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับมา แต่เขาเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ แม้จะต้องเจ็บปวดกับความทรงจำร้ายๆ แม้จะต้องคอยโดนความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจก็ตาม แต่ถึงจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ด้วยตัวเอง...


               ช่วงเวลาที่คนในครอบครัว คนที่เรารัก ต้องมาล้มหายตายจากไปอย่างกระทันหัน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่เราต้องเข้มแข็ง เพื่อมีชีวิตอยู่รอดต่อไป ไม่มีเวลาให้มานั่งร้องไห้เสียใจ อาลัยอาวรณ์กับคนที่จากไปแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า..ความเข้มแข็งที่สร้างขึ้นมาอย่างหลอกๆตัวเองนั้น วันนี้มันกลายเป็นความอ่อนแอแพ้ภัยตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ถึงเวลาที่ความเสียใจนั้น มันจะจู่โจมทำร้ายจิตใจ ให้เราต้องคิดถึงคนที่จากเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา มีแต่ความทรงจำที่ยังอยู่ในใจให้เราได้คิดถึง...


               หัวใจคนๆนึงที่ได้ปิดตายมาแล้ว 3 ปี เพราะความรักทุกรูปแบบที่เราได้เจอ ได้ลงเอยจบด้วยการจากลาทั้งดีและไม่ดี แต่ก็ได้ฝากรอยแผลและความเจ็บปวดเอาไว้อยู่ในความทรงจำ ทำให้เราไม่กล้าเผชิญหน้ากับความรักและการผูกมัด แต่วันหนึ่ง..ได้มีคนๆหนึ่งเข้ามาในชีวิตเรา คนที่เป็นเหมือนเพื่อน เป็นกำลังใจ เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ เป็นใครที่อยู่เคียงข้างเรา ทำให้เราหนีไม่พ้นความรู้สึกดีๆที่เกือบจะเรียกว่า "ความรัก" แต่แล้วเราต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อคนๆนั้นคิดกับเราแค่ "เพื่อนคนหนึ่ง" เพราะเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว หนำซ้ำเขายังเอาเรื่องคนที่เขาชอบ มาปรึกษาปัญหาหัวใจกับเรา ด้วยความที่เราเป็น "นักปลอบใจ" เพราะการปลอบใจคนคือความสุขของเรา ทำให้เราต้องรับฟังและปลอบใจเขาไป ทำหน้าที่นี้ดีไม่น้อยไปกว่าดีเจพี่อ้อยพี่ฉอดแห่งคลับฟรายเดย์ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า..เราเองกำลังเจ็บเพราะเขาอยู่เหมือนกัน อีกครั้งกับการที่ไม่มีใครนึกถึงความรู้สึกของเรา...

               ชีวิตที่ต้องพบเจอกับความผิดหวัง ทั้งเรื่องครอบครัว การงาน การเงิน ความรัก ทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจคนๆนึงนั้น ได้เกือบพังทลายลงไป จมปลักอยู่กับความเศร้า แต่เราก็ยังจะดิ้นรนมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วหวังว่าสักวันหนึ่ง..มันต้องดีกว่านี้ ความโชคดี..จะต้องเป็นของเราบ้าง จะมีชีวิตอยู่..เพื่อรอวันนั้น วันที่ฟ้าหลังฝนจะสดใส :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น